ลองอ่านและเปิดดูซิ
สมบัติของหมู่ธาตุแฮโลเจน
- หมู่ธาตุแฮโลเจน ได้แก่ ฟลูออรีน คลอรีน โบรมีน ไอโอดีน และแอสทาทีน
- เป็นธาตุหมู่ VII A ในตารางธาตุ
- เป็นธาตุที่มีพิษทุกธาตุและมีกลิ่นแรง
- โมเลกุลของธาตุแฮโลเจนประกอบด้วย 2 อะตอม (Cl2, Br2, I2)
- ทำปฏิกิริยากับโลหะได้เกลือ เช่น NaCl LiF
- แฮโลเจนไอออนมีประจุบลบหนึ่ง (F-, Cl-, Br-, I-, At-)
ธาตุหมู่ 7 (เฮโลเจน)
1. เป็นธาตุหมู่เดียวที่ 1 โมเลกุล มี 2อะตอม เรียกว่า Diatomic Molecule
2. จากความสามารถในการออกซิไดส์ในธาตุหมู่ 7 ทำให้สามารถเตรียมก๊าซหมู่ 7 โดยอาศัยสมบัติได้
3. พบเป็นธาตุอิสระในธรรมชาติ และพบในรูปของสารประกอบไอออนิกและโคเวนเลนต์
4. สารประกอบของหมู่ 7 ส่วนใหญ่ละลายน้ำได้ดี
สรุปสมบัติทั่วๆ ไปของธาตุหมู่ VIIA ได้ดังนี้
1. เป็นพวกอโลหะ มีเวเลนต์อิเล็กตรอนเท่ากับ 7 สภาวะปกติ F2 และ Cl2 เป็นก๊าซสีเหลืองอ่อนและเขียวอ่อนตามลำดับ Br2 เป็นของเหลวสีน้ำตาลแดง และ I2 เป็นของแข็งสีม่วง ซึ่งสีของธาตุแฮโลเจนจะเข้มขึ้น เมื่อเลขอะตอมเพิ่มขึ้น ทุกตัวเป็นสารพิษ
2. ความเป็นอโลหะจะลดลงเมื่อเลขอะตอมเพิ่มขึ้น หรือความเป็นโลหะจะเพิ่มขึ้นเมื่อเลขอะตอมเพิ่มขึ้น
3. ธาตุแฮโลเจนทุกตัวอยู่ในสภาพโมเลกุลอะตอมคู่ (diatomic molecule) ทุกสถานะทั้งของแข็ง ของเหลวและก๊าซ โดยยึดเหนี่ยวกันด้วยพันธะโคเวเลนต์
4. ไม่นำความร้อนและไฟฟ้าเพราะเป็นอโลหะ
5. อะตอมมีขนาดเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับธาตุในคาบเดียวกัน แต่มีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเลขอะตอมเพิ่มขึ้น
6. ธาตุหมู่ VIIA ละลายในน้ำได้เล็กน้อยและให้สีต่างๆ กัน เนื่องจากเป็นโมเลกุลไม่มีขั้วจึงละลายได้ดีในตัวทำละลายอินทรีย์ เช่น ใน CCl4
Cl2 ใน CCl4 ไม่มีสี
Br2 ใน CCl4 สีส้ม
I2 ใน CCl4 สีม่วง
ซึ่งในตัวทำละลายดังกล่าวนี้ธาตุหมู่ VIIA ทุกชนิดจะอยู่ในรูปของโมเลกุลอิสระเหมือนกับในสภาวะเป็นก๊าซ
ในตัวทำละลายที่มีขั้ว เช่น H2O, C2H5OH , CH3COCH3 , ทั้ง Br2 และ I2 จะมีสีน้ำตาลแดง เนื่องจากเกิดสารประกอบเชิงซ้อนขึ้น
7. ความหนาแน่นน้อย แต่ความหนาแน่นจะเพิ่มขึ้นเมื่อเลขอะตอมเพิ่มขึ้น
8. มีจุดหลอมเหลว จุดเดือดและความร้อนแฝงของการเกิดไอต่ำ เนื่องจากมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล (คือแรงวันเดอร์วาลส์) น้อย แต่จุดหลอมเหลว จุดเดือดและความร้อนแฝงของการเกิดไอเพิ่มขึ้น เมื่อเลขอะตอมเพิ่มขึ้น เพราะมีแรงวันเดอร์วาลส์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้การระเหยของธาตุหมู่ VIIA จะค่อยๆ ลดลงเมื่อเลขอะตอมเพิ่มขึ้น เพราะแรงวันเดอร์วาลส์เพิ่มขึ้น
9. มีค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีสูงที่สุด ในคาบเดียวกัน และค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีจะค่อยๆ ลดลงเมื่อเลขอะตอมเพิ่มขึ้น
10. มี IE1 ค่อนข้างสูง และค่า IE1 จะค่อยๆ ลดลงเมื่อเลขอะตอมเพิ่มขึ้น เนื่องจากขนาดใหญ่ขึ้น
11. มีเลขออกซิเดชันได้หลายค่า เนื่องจากมี 7 เวเลนต์อิเล็กตรอน ซึ่งสามารถจะให้หรือรับอิเล็กตรอนจากธาตุอื่น หรือใช้อิเล็กตรอนร่วมกับธาตุอื่นๆ ซึ่งมีค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีต่างๆ กันได้ ทำให้มีเลขออกซิเดชันหลายค่า เช่น ตัวอย่างของธาตุ Cl มีเลขออกซิเดชันตั้วแต่ -1 ถึง +7
12. เกิดสารประกอบได้หลายชนิด เช่น NaCl CaF2 HF KI และยังเกิดสารประกอบที่มีธาตุองค์ประกอบชนิดเดียวกันได้หลายชนิด เพราะมีเลขออกซิเดชันหลายค่า เช่น NaClO NaClO2 NaClO3 NaClO4 Cl2O ClO2 ClO3 และ Cl2O7 เป็นต้น
13. ธาตุที่อยู่ตอนบนของหมู่ สามารถทำปฏิกิริยากับสารประกอบแฮไลด์ของธาตุที่อยู่ตอนล่างได้ แต่ธาตุอยู่ตอนล่างจะไม่ทำปฏิกิริยากับสารประกอบแฮไลด์ของธาตุที่อยู่ตอนบน จึงสรุปได้ว่า “ความสามารถในการทำปฏิกิริยาของธาตุหมู่ VIIA จะลดลงจากบนลงล่าง” เช่น
F2 ทำปฏิกิริยากับ NaCl ได้ แต่ Cl2 ไม่ทำปฏิกิริยากับ NaF
F2 + 2NaCl → 2NaF + Cl2
Cl2 + NaF → ไม่เกิดปฏิกิริยา
ธาตุอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน
Cl2 + 2NaBr → 2NaCl + Br2
Br2 + NaCl → ไม่เกิดปฏิกิริยา
14. การเตรียมธาตุแฮโลเจนบางธาตุทำได้ดังนี้
2KMnO4 + 16HCl (conc) → KCl + 2MnCl2 + 8H2O + 5Cl2
MnO2 + 4HCl (conc) → MnCl2 + 2H2O + Cl2
2NaBr + MnO2 + 3H2SO4 (conc) → 2NaHSO4 + MnSO4 + 2H2O + Br2
15. ปฏิกิริยาที่สำคัญของสารประกอบแฮไลด์ เมื่อเติมสาร
F- (aq), Cl- (aq), Br- (aq) , I- (aq) กับ Pb(NO3)2 หรือ AgNO3 (aq)
ปฏิกิริยากับสารละลาย AgNO3 และ NH3 หรือแสงสว่าง จัดได้ว่าเป็นวิธีการทดสอบแฮไลด์ไอออน
F- (aq) ไม่ให้ตะกอนกับ AgNO3 (aq)
Cl- (aq) ให้ตะกอนขาว AgCl ซึ่งเปลี่ยนเป็นสีเทาเมื่อถูกแสงและละลายได้ใน NH3 (aq)
Br- (aq) ให้ตะกอนเหลืองอ่อน AgBr ซึ่งเปลี่ยนเป็นสีเขียว-เหลือง เมื่อถูกแสงและละลายได้ ใน NH3 เข้มข้น
I- (aq) ให้ตะกอนเหลือง AgI ซึ่งไม่เปลี่ยนสีเมื่อถูกแสงและไม่ละลายใน NH3
การละลายได้ใน NH3 (aq) เพราะเกิดสารประกอบเชิงซ้อนที่ละลายได้
AgCl (s) + 2NH3 (aq) → [Ag(NH3)2]+ (aq) + Cl- (aq)
ลองเปิดดูซิ
เป็นไงเปิดต่อไปซิ
วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น